ถึงฝนจะมาแต่หน้าก็ยังใส kandabeauty แวะมาบอกทริคการดูแลผิว
ไม่ให้เป็นสิว ผิวไม่หมอง ชุ่มชื่น นุ่มเด้ง ช่วงหน้าฝนกันค่ะ
👉ขั้นตอนแรกล้างหน้าและเช็ดให้แห้งหลังเปียกฝน เพราะอาจทำให้เกิดสิวผดบนหน้าได้ มลภาวะในแต่ละวันที่ต้องเจอทั้งฝุ่นควัน ทั้งฝนทั้งแดด ก็ต้องดูแลผิวเป็นพิเศษเริ่มจากการ ใช้ Cleansing Water ทำความสะอาดหน้าเลือกสูตรตามสภาพผิวกันได้เลย ใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง โดยเฉพาะเครื่องสำอางกันน้ำ สามารถเช็ดฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง pm2.5 ได้อย่างหมดจด ขจัดสิ่งสกปรก ช่วยลดการอุดตันบนผิว ลดอาการแพ้ อาการคัน โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง และช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นด้วยสารสกัดที่อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว
👉ขั้นตอนต่อไปก็ต้องล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า ที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน ตามด้วยการเช็ดทำความสะอาดผิวอีกรอบด้วยโทนเนอร์ เป็นอีกหนึ่ง สกินแคร์ยอดฮิต! ที่หลาย ๆ คนนิยมใช้ ทั้งช่วยให้ความชุ่มชื้น ผิวกระจ่างใส หรือแม้แต่โทนเนอร์ลดสิวก็มีนะคะ โทนเนอร์ คือ สกินแคร์อีกหนึ่งชนิดที่มีหน้าที่ในการทำความสะอาดผิวหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย โดยใช้หลังจากล้างหน้าเสร็จ เพื่อให้มั่นใจว่าผิวหน้าของเราจะไม่มีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่นั่นเองค่ะ นอกจากนั้นโทนเนอร์ยังช่วยปรับสภาพผิว ทำให้ผิวหน้าของเราพร้อมรับการบำรุงในขั้นต่อไปได้ดีมากยิ่งขึ้น
แนะนำให้ใช้โทนเนอร์ตอนเช้าและเย็นหลังจากล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว โดยเทใส่สำลีเนื้อนุ่มสำหรับเช็ดโทนเนอร์โดยเฉพาะ และเช็ดตามแนวรูขุมขน เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ใช้เช็ดกำจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนผิวหลังการล้างหน้า ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าจากสิ่งสกปรกตกค้างได้อย่างหมดจด พร้อมควบคุมความมันส่วนเกิน ปลอบประโลมขั้นสุด ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และกระชับรูขุมขนให้เรียบเนียน
*ทริคหน้าใสกับโทนเนอร์กันดะฉบับสาวเกาหลี: สาวเกาหลีมักนิยมใช้โทนเนอร์เช็ดหน้าหลังล้างหน้า ขณะที่หน้ายังเปียก ๆ อยู่ โดยหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ใช้วิธีนี้หน้าจะใสและรูขุมขนกระชับขึ้นกว่าเดิมด้วยค่ะ
จริง ๆ โทนเนอร์สามารถแบ่งตามจุดประสงค์การใช้งานได้หลากหลายมาก ๆ แต่ถ้าจะให้ถูกจุดแบบเหมาะกับเราก็สามารถเลือกซื้อโทนเนอร์จากสภาพผิวก็จะตรงสุดนั่นเอง
-
โทนเนอร์สำหรับผิวแห้ง: คนผิวแห้ง สิ่งแรกที่ควรมองหาเลยคือ โทนเนอร์ให้ความชุ่มชื้น เช่น แพลงก์ตอน, ไฮยาลูรอน, ว่านหางจระเข้ เป็นต้น เพราะหากหน้าแห้งและมีความชุ่มชื้นไม่เพียงพอจะเป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยและปัญหาผิวอื่น ๆ ที่จะตามมา และควรหลีกเลี่ยงโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้ผิวแห้งกว่าเดิมนั่นเอง
-
โทนเนอร์สำหรับผิวมัน: คนผิวมัน ให้มองหาโทนเนอร์ที่ช่วยขจัดความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกบนใบหน้าเป็นอันดับแรก เช่น วิชฮาเซล, ทีทรี, BHA เป็นต้น เพราะยิ่งหน้ามันมากเท่าไหร่ โอกาสในการอุดตันและการเกิดสิวก็ยิ่งมากขึ้นนั่นเอง
-
โทนเนอร์สำหรับผิวผสม: คนผิวผสม ควรเลือกโทนเนอร์ที่ช่วยปรับสมดุลให้ผิว มี pH5.5 มีวิตามินอีที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นแต่ไม่เพิ่มความมัน แต่ที่สำคัญ ต้องไม่มีแอลกอฮอล์ และสารผลัดเซลล์ผิวมากระตุ้นการระคายเคืองผิวนะคะ
-
โทนเนอร์สำหรับผิวแพ้ง่าย: ผิวแพ้ง่าย อาจจะหาโทนเนอร์ยากหน่อยค่ะ ต้องใช้สูตรที่อ่อนโยน เพราะต้องหลีกเลี่ยงทั้งแอลกอฮอล์ สารกันเสีย น้ำหอม และสารผลัดเซลล์ผิวต่าง ๆ ถ้าจะให้แนะนำ คงต้องลองเอาน้ำแร่ หรือน้ำเกลือมาเช็ดหน้าแทนโทนเนอร์ไปเลยก็พอได้อยู่เหมือนกันค่า
👉ขั้นต่อมา Eye Serum เซรั่มบำรุงผิวรอบดวงตา ผิวรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบาง ระคายเคืองง่ายและเกิดริ้วรอยได้ง่ายด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้น สกินแคร์ที่จะดูแลผิวรอบดวงตาได้นั้นจะต้องเข้มข้นและอ่อนโยนค่ะ
👉ตามด้วย Serum เซรั่มเป็นตัวช่วยฟื้นบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก สามารถเลือกใช้โดยเน้นสารสกัด จากถั่วเหลือง อาร์บูติน และวิตามินบี 3 ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว Sensityl ช่วยปลอบประโลมผิว ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวของเราได้อย่างตรงจุด เช่น มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส แนะนำให้ใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ผิวมีปัญหาสิว ผิวอักเสบ แนะนำให้ใช้เซรั่มที่สกัดมาจาก Centella Asiatica เพราะจะช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบได้อย่างดีค่ะ
👉ตามด้วย Moisturizer มอยส์เจอร์ไรเซอร์ สิ่งที่ต้องเติมให้ผิวอย่างสม่ำเสมอนั่นก็คือ ความชุ่มชื้น เพราะความชุ่มชื้นเป็นสิ่งที่ทำให้ผิวเสียสมดุล ถ้าผิวขาดความชุ่มชื้นจะทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ง่าย ผิวผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินไป จนทำให้ผิวมันแต่ขาดน้ำและเกิดสิวขึ้นได้นั่นเอง
👉ปิดท้ายด้วยการทาครีมกันแดดทุกวัน หน้าฝนอย่าคิดว่าไม่มีแดด ควรทาทุกวันเพื่อป้องกันสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำด้วยนะคะ กันแดดทั่วไปก็จะมีหลายเนื้อมากๆ ขึ้นอยู่กับ Life Style ความชอบของแต่ละคน แต่แอบบอกว่าเนื้อเซรั่ม จะเป็นเนื้อยอดนิยมที่สุด เพราะเนื้อที่บางเบา ป้องกันผิวจากรังสี UVA/UVB ได้ดีแล้ว ยังป้องกันมลภาวะ PM 2.5 ได้ด้วย ที่สำคัญคือไม่มีสี ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ กันน้ำ กันเหงื่อ จึงเข้าได้ดีกับทั้งผิวหนุ่มๆและสาวๆ ข้อสำคัญเพิ่มเติมควรเลือกสูตรที่ไม่มีสารอันตราย ไม่ทำลายแนวปะการัง และยังสามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้า และผิวกาย เรียกว่าดูแลปกป้องทั้งที ต้องเลือกให้คลอบคลุมครบทุกจุด