ส่วนผสมที่ต้องมองหาในสกินแคร์ลดริ้วรอยสำหรับคนวัย 30+
เมื่ออายุสามสิบจะเกิดอะไรขึ้นกับผิวของเรา? จากผิวที่เคยเรียบเนียน แน่นตึง อยู่ๆก็กลายเป็นผิวที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัยไปโดยไม่รู้ตัว วันนี้กันดะพามาทำความรู้จักกับ 5 ส่วนผสม ในสกินแคร์ช่วยลดการเกิดริ้วรอยและความเหี่ยวย่น มีตัวไหนบ้างและแต่ละตัวมีหน้าที่สำคัญอะไรที่จะช่วยกอบกู้ผิวคนวัยสามสิบอัพ ให้กลับมาเปล่งปลัง มาดูไปพร้อมๆ กับ kandabeauty เลยค่ะ
กลุ่มเรตินอยด์ นอกจากเรตินอลที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเรตินอยด์แล้ว จริงๆ เค้าก็ยังมีหลายฟอร์มด้วยกันที่เราอาจจะเคยเห็นผ่านตามาบ้าง ตัวที่ได้ยินกันบ่อยๆ ก็จะมี Retinoic acid, Retinyl Esters, Retinol, และ Retinal ซึ่งเค้าก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป วันนี้ซิสลิสต์ไว้มาเป็นข้อๆ ให้เข้าใจกันง่ายๆ มาดูกันเลย
♡ Retinoic acid ตัวนี้เค้าจะจัดเป็นยา ประสิทธิภาพตัวนี้ดีมากแต่ก็มีผลข้างเคียงค่อนมากตามมาด้วยและที่สำคัญคือจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
♡ Retinyl Esters จะอ่อนโยนกว่าตัวอื่นๆ แต่ประสิทธิภาพก็จะน้อยกว่าตัวอื่นเช่นกัน
♡ Retinol เป็นตัวที่เราจะเห็นบ่อยมากกว่าตัวอื่นเพราะเรตินอลจะนิยมนำใช้ในสกินแคร์มากที่สุด และมีงานวิจัยรับรองมากที่สุด ที่เราเห็นว่า
สกินแคร์ส่วนใหญ่จะใช้ในฟอร์ม Retinol มากกว่า นั่นก็เพราะข้อดีก็คือการอยู่ในฟอร์ม Retinol ก็จะทำให้การระคายเคืองน้อยลงตามไปด้วย
♡ Retinal ตัวนี้ประสิทธิภาพดีเช่นกันค่ะแต่เวลาใส่ในสกินแคร์เค้าจะไม่ค่อยเสถียร ทำให้เก็บยากและเสื่อมประสิทธิภาพเร็ว ผลข้างเคียงก็มากกว่า Retinol อีกด้วย
การใช้เรตินอลสำหรับมือใหม่ :
- ถ้าไม่เคยใช้เรตินอลเลยให้เราเริ่มจากใช้ตัวที่มีเปอร์เซ็นน้อยๆ ก่อน อาจจะเลือกความเข้มข้นอยู่ที่ 0.1 – 0.2%
- ส่วนระยะความถี่ในการใช้ ก็ให้ใช้วันเว้นวันไปก่อนซัก 2 – 3 อาทิตย์ ถ้าใช้แล้วผิวไม่ลอก ไม่แสบ แล้วค่อยปรับมาเป็นใช้ทุกวันได้
- เรตินอลแนะนำว่าใช้แค่ตอนกลางคืน เพราะเค้าจะทำให้ผิวเราเซนซิทีฟต่อแสงแดดมาก ฉะนั้นตอนช่วงกลางวันเราก็ต้องทากันแดดเป็นประจำ
- เวลาจะทาก็ให้เราทาหลังจากมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อช่วยลดการระคายเคืองผิว ถ้ายังระคายเคืองอยู่ก็สามารถทามอยส์เจอไรเซอร์ทับอีกรอบได้เช่นกัน
- เลี่ยงการใช้กับกลุ่มผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHA BHA เพราะเรตินอลก็ช่วยผลัดเซลล์ผิวอยู่แล้วการใช้ AHA BHA อาจจะทำให้ระคายเคืองมากขึ้น