Skip to content

8 พฤติกรรมที่ควรหยุดทำ ถ้าอยากมี “ผิวสวย”

8 พฤติกรรมที่ควรหยุดทำ ถ้าอยากมี “ผิวสวย”

หลายๆ ครั้งที่เราไม่รู้สาเหตุและที่มาของปัญหาผิวที่เรากำลังเผชิญอยู่ เพราะพฤติกรรมบางอย่างที่อาจดูไม่น่าจะเกี่ยวข้อง แต่กลับส่งผลเสียต่อผิวพรรณได้มากกว่าที่เราคิด มาดูกันวว่า เราควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมอะไรกันบ้าง

 

  1. สครับผิวหน้าบ่อยเกินไป

จะเป็นการรบกวนผิวหน้าจนอาจเกิดการระคายผิว, ผิวแห้งตึง, เกิดผื่นและรอยแดงขึ้นได้ นอกจากนั้นยังอาจทำให้ผิวหน้าผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติเพื่อชดเชยกับความชุ่มชื้นที่สูญเสียไป และน้ำมันที่มากเกินไปนี้ก็อาจทำให้รูขุมขนอุดตันและเป็นสาเหตุของสิวได้

 

  1. พักผ่อนไม่เพียงพอ

ส่งผลให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส ความเปล่งปลั่งตามธรรมชาติก็จะหายไป เพราะกลไกของร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ระหว่างที่เรานอนหลับ ควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวหน้าได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

 

  1. ไม่ล้างเครื่องสำอางให้สะอาดหมดจดก่อนเข้านอน

เพราะคราบเครื่องสำอางที่ว่ามีแต่จะส่งผลเสียต่อผิวหน้าของคุณนะจ๊ะ ไม่ว่าจะเป็นรูขุมขนที่กว้างหรือสิวอุดตันที่จะตามมาแน่ๆ ยิ่งถ้าใครที่ชอบแต่งหน้าแบบฟาดๆ สาย ฝ. เน้นแต่งดวงตาเข้มๆ ด้วยอายไลเนอร์และมาสคาร่า การไม่ล้างเครื่องสำอางก่อนนอนอาจมีผลกระทบทำให้เยื่อบุตาอักเสบได้ หากไม่มีเวลาจริงๆ ควรใช้ Makeup Wipe ทำความสะอาดผิวหน้าก่อนเข้านอน จะได้ไม่ต้องตื่นมาพร้อมกับปัญหาผิวในวันรุ่งขึ้น

 

  1. บีบสิว

มีใครที่เห็นสิวบนใบหน้าแล้วอดใจไม่ไหว เชื่อว่ามีหลายคนยกมืออย่างแน่นอน ว่าการบีบสิวทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่กว่าจะจางหายไปเองนั้น ช่างยากเสียเหลือเกิน บางรายถึงขั้นต้องไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษารอยแผลเป็น ซึ่งก็เป็นการสิ้นเปลืองและใช้เวลานานเช่นกัน เพราะฉะนั้นครั้งต่อไปที่เห็นสิวผุดขึ้นมา พยายามคิดไว้ว่า ถ้าเราไม่ยุ่งกับมัน อีกไม่กี่วันมันก็จะค่อยๆ ยุบไปเอง แต่ถ้าใจร้อนไปบีบมัน แผลเป็นจากรอยสิวจะอยู่กับคุณไปอีกนาน

 

  1. จับหน้าบ่อยๆ

ด้วยความเคยชินหรือทำไปแบบไม่รู้ตัว แต่รู้หรือไม่ว่าอาจทำให้เกิดสิวอักเสบหรือการติดเชื้อต่างๆ ได้ เพราะผิวหน้าของเรามีความบอบบางกว่าผิวหนังบริเวณมือ อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหน้าได้ นี่ยังไม่รวมถึงเชื้อโรคหรือแบคทีเรียต่างๆ ที่ติดมากับมือของเราเวลาที่เราไปหยิบจับสิ่งของรอบๆ ตัว ทางที่ดีพยายามอย่าจับใบหน้าของตัวเองโดยไม่จำเป็นจะปลอดภัยที่สุด

 

  1. ใช้สกินแคร์หลายชนิดเกินไป

แต่อะไรที่มากเกินพอดีก็อาจเป็นอันตรายกับผิวหน้าได้ การพอกสกินแคร์หลายๆ ชั้นอาจทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง และเราเองก็จะไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าอาการผิดปกตินั้นเกิดจากสกินแคร์ตัวไหนด้วย เนื่องจากเราใช้หลายตัวพร้อมๆ

 

  1. ไม่ทาครีมกันแดด

รังสียูวีสามารถทำร้ายผิวของเราด้วยการรบกวนกระบวนการสร้างคอลลาเจนของผิว, ทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น, เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิวที่มาในรูปของฝ้า กระ จุดด่างดำ, ผิวแห้งกร้าน, ริ้วรอยก่อนวัย และอาจร้ายแรงไปจนถึงการเป็นมะเร็งผิวหนัง คงไม่ต้องบอกแล้วใช่มั้ยจ๊ะว่าการไม่ทาครีมกันแดดไม่ดีกับผิวพรรณของเราขนาดไหน ถ้าเป็นไปได้ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ เป็นประจำทุกวันจนติดเป็นนิสัย เพราะถึงแม้จะอยู่ในที่ร่ม รังสียูวีก็สามารถทะลุผ่านหน้าต่างเข้ามาได้

 

  1. ดื่มน้ำน้อย

ร่างกายคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 2 ใน 3 ส่วน ไม่เว้นแม้แต่ผิวหน้าที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบราวๆ 35% น้ำที่เราดื่มจึงส่งผลโดยตรงกับความชุ่มชื้นของผิวและเซลล์ผิว หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ ผิวจะขาดความชุ่มชื้น แห้งกร้าน ไม่อิ่มน้ำ และเกิดริ้วรอยในที่สุด สาวๆ รู้แบบนี้แล้วก็ควรหมั่นดื่มน้ำให้มากๆ โดยค่าเฉลี่ยสำหรับผู้หญิง ควรดื่มน้ำให้ได้ 2.2 ลิตรต่อวันหรือประมาณ 9 แก้วนะจ๊ะ

 

สาวๆ คนไหนที่มีพฤติกรรมใน 8 ข้อข้างต้น ไม่ว่าจะกี่ข้อก็ตาม ควรหยุดพฤติกรรมนั้นๆ โดยด่วนเพื่อผิวหน้าที่สวยใส เปล่งปลั่งและดูอ่อนกว่าวัย

0
    0
    ตะกร้าสินค้า
    ไม่มีสินค้าในตะกร้ากลับไปที่ร้านค้า